Benz Patent Motor Car : รถคันแรกของโลกมี 3 ล้อ!! | ||||||||||||||||||||||
|

ให้บริการเกี่ยวกับรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า น้ำมัน และแก๊ส ในด้านการขาย เช่า ซ่อม อะไหล่ และบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างครบวงจร โดยทางบริษัทขอแจ้งรายละเอียดในเรื่องสินค้าและบริการดังนี้ -บริการซ่อมบำรุงรถโฟล์คลิฟท์(forklift repair)ทั้งระบบไฟฟ้า น้ำมัน แก๊ส -บริการตรวจเช็คและบำรุงรักษารถโฟล์คลิฟท์(P.M.forklift)รายเดือนและรายปีฯลฯ Email:pcnforklift@hotmail.com, Tel: 086-5182510,ID:LINE PCNFORKLIFT06 หรือ @pcnforklift และทาง , www.pcnforklift.com
วันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555
คุณรู้ไหม
คุณรู้ไหม
วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ออกกำลังกายไม่เสียงาน
ออกกำลังกายไม่เสียงาน
เราจะออกกำลังกายอย่างไรที่สามารถทำงานบ้านไปด้วย ซึ่งแม่บ้านหลายท่านคงจะมีวิธีการต่างๆ ที่สามารถทำให้ออกกำลังกายไปด้วยและได้ทำงานบ้านที่เป็นงานประจำด้วย โดยได้ประโยชน์ทั้งสองอย่าง วันนี้เรามีสุดยอดสิ่งประดิษฐ์ที่เราก็สามารถทำได้และราคาถูกด้วย
เราจะออกกำลังกายอย่างไรที่สามารถทำงานบ้านไปด้วย ซึ่งแม่บ้านหลายท่านคงจะมีวิธีการต่างๆ ที่สามารถทำให้ออกกำลังกายไปด้วยและได้ทำงานบ้านที่เป็นงานประจำด้วย โดยได้ประโยชน์ทั้งสองอย่าง วันนี้เรามีสุดยอดสิ่งประดิษฐ์ที่เราก็สามารถทำได้และราคาถูกด้วย
อัพ สตรีม: สุดยอดสิ่งประดิษฐ์จากถังน้ำพลาสติก
|
แม้ว่าก่อนหนน้านี้ เราเคยนำเสนอผลงานนวัตกรรมเครื่องซักผ้าพลังเหยียบ ที่มีชื่อว่า GiraDora แต่วันนี้เราขอนำเสนอสิ่งประดิษฐ์ที่ถือว่าเป็นนวัตกรรมเพื่อสังคมอีกหนึ่งชิ้น นั่นก็คือ เครื่องซักผ้าที่มีต้นทุนการผลิตน้อยกว่า แถมยังมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับ GiraDora กล่าวคือ สามารถตอบโจทย์ผู้ที่ไม่มีทั้งน้ำประปาและไฟฟ้าใช้สำหรับซักผ้า แต่ทว่างานซักเป็นงานที่แม่บ้านหลายท่านต้องปาดเหงื่อ เนื่องจากกินเวลาหลายชั่วโมง
อารอน สเตธัม และอีเลียต โควีนา นักศึกษาสาขาวิชาการออกแบบอุตสาหกรรม จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ได้ออกแบบสิ่งประดิษฐ์เพื่อช่วยลดเวลาในการซัก สิ่งประดิษฐ์ที่ว่านี้มีชื่อว่า อัพ สตรีม (Up-Stream) ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลที่หาได้ในท้องถิ่น เช่น ถังน้ำพลาสติกขนาดบรรจุ 5 แกลลอน เชือกพลาสติก ท่อประปาเหล็ก และยางเทียมสำหรับคุลมถังพลาสติกที่เจาะรูเพื่อระบายน้ำทิ้ง เครื่องซักผ้าดังกล่าวอาศัยการทำงานของล้อและเพลาที่อยู่ในแนวเดียว ซึ่งทำให้ล้อและเพลาหมุนด้วยจำนวนรอบที่เท่ากัน ทั้งนี้ ผู้ใช้งานสามารถสอดปลายเท้ากับเชือกที่ผูกเป็นบ่วง วางเท้าแล้วกดน้ำหนักลงที่บ่วงเพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกจากเสื้อผ้า หลังจากสิ้นสุดขั้นตอนการซักล้าง ผู้ใช้สามารถปั่นผ้าให้หมาด ด้วยการคลายเกลียวเชือกจากนั้นดึงเชือกด้วยความแรงพอสมควร
ทั้งนี้ อารอน สเตธัม และอีเลียต โควีนา เชื่อว่าสามารถผลิตเครื่องซักผ้ารุ่นดังกล่าวในราคาต่ำกว่า 4 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากผลิตจากวัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น แถบยังสามารถประกอบและซ่อมแซมได้ง่ายอีกด้วย
|
Gira Dora คืออะไร
Gira Dora ( กิราร์โดรา )
กิราร์โดรา คืออะไร เรามาทำความรู้จักกับคำๆนี้ไปพร้อมๆกัน
กิราร์โดรา คืออะไร เรามาทำความรู้จักกับคำๆนี้ไปพร้อมๆกัน
เครื่องซักผ้าพลังเหยียบ ราคาสบายกระเป๋า
เมื่อปีที่ผ่านมา อเล็กซ์ คาบูน็อค และ จี อา โหยว นักศึกษาสาขาวิชาการออกแบบจากสถาบันอาร์ต เซ็นเตอร์ คอลเลจ ออฟ ดีไซน์ (Art Center College Design) ซึ่งเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงด้านการออกแบบนวัตกรรมเพื่อสังคม ได้มีโอกาสเดินทางจากนครลอสแอนเจลิส ไปยังเซอโร เวอร์เด้ ชุมชนแออัด ชานเมืองลิมา ประเทศเปรู (ชุมชนแห่งนี้มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 30, 000 ครัวเรือน) เพื่อทำโครงการวิจัยภาคสนามที่มีชื่อว่า “เซฟ อควา เปรู” (Safe Aqua Peru) ซึ่งโครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนานวัตกรรมในเชิงพาณิชย์เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำและช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้ระหว่าง 4 ถึง 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน
โครงการดังกล่าวมุ่งหวังที่จะผลิตนวัตกรรมเพื่อชุมชนที่ยากไร้ ไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ จากการลงพื้นที่สำรวจภาคสนาม พบว่างานซักทำให้สิ้นเปลืองเวลาถึง 6 ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้น คณะจึงมีแนวคิดที่จะออกแบบเครื่องซักผ้าที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ สามารถทำงานโดยอาศัยการกดน้ำหนักเท้าลงบนคันเหยียบ จึงคิดค้นนวัตกรรมที่มีชื่อว่า GiraDora (กิราร์โดรา)
|
|
กิราร์โดราเป็นเครื่องซักผ้าที่ผลิตจากถังน้ำพลาสติกที่สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก ใช้งานได้ง่าย ซักผ้าได้โดยไม่ใช้ไฟฟ้า และมีราคาย่อมเยาเหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย เครื่องซักผ้ารุ่นดังกล่าวยังใช้น้ำในปริมาณน้อย ทำความสะอาดได้เร็ว แถมยังประหยัดแรงกว่าการซักผ้าด้วยมือ โดยผู้ใช้งานสามารถหยิบจับงานอื่นขึ้นมาทำระหว่างซักผ้าได้
เครื่องซักผ้ารุ่นนี้มีหลักการทำงานที่ไม่ยุ่งยาก กล่าวคือ ผู้ใช้งานสามารถเติมผงซักฟอกและน้ำลงไปในถัง ใส่เสื้อผ้าที่จะซักลงไปแล้วปิดผาถังพลาสติกให้สนิท ก่อนที่จะนั่งลงบนเบาะรองนั่ง แล้วเดินเครื่องด้วยการกดน้ำหนักเท้าลงบนคันเหยียบ ทั้งนี้ ตำแหน่งการนั่งมีลักษณะที่เป็นธรรมชาติ ช่วยป้องกันอาการปวดหลังจากการเอี้ยวตัว
|
อนึ่ง ในช่วงฤดูหนาวต้องใช้เวลาถึง 3 สัปดาห์กว่าเสื้อผ้าจะแห้งสนิท แต่กิราร์โดราสามารถสะบัดน้ำจากผ้าจนหมด ปั่นเสื้อผ้าจนหมาด ทำให้เสื้อผ้าแห้งเร็วยิ่งขึ้น หมดปัญหาเรื่องเชื้อราและอาการเอ็นอักเสบที่ข้อมือจากการบิดผ้า
ทั้งนี้ ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการทดลอง โดยคณะได้ร่วมงานกับชุมชนอย่างใกล้ชิด และผลงานชิ้นเอกนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยสามารถกวาดรางวัลจากหลายเวทีไม่ว่าจะเป็น The Dell Social Innovation Challenge และ The International Design Excellent Awards (IDEA)
นับได้ว่ากิราร์โดราเป็นผลงานการออกแบบเชิงนวัตกรรมเพื่อสังคมอย่างแท้จริง เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตไม่ถึง 40 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้การซักผ้าเป็นเรื่องง่ายขึ้น แถมยังทำให้ผู้ใช้งานมีเวลาเพิ่มขึ้นอีกด้วย
|
Share on facebookShare on printShare on twitterShare on googleMore Sharing Services
|
แบตเตอรี่ชาร์จไฟเพียงเสี้ยวนาทีได้จริงหรือ
แบตเตอรี่ชาร์จไฟเพียวเสี้ยวนาทีได้จริงหรือ
แบตเตอรี่ชาร์จไฟเพียงเสี้ยวนาที
| Ulsan National Institute of Science and Technology (UNIS) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ ตั้งอยู่ในเมืองอุลซัน ประเทศเกาหลีใต้ เปิดตัวงานวิจัยแบตเตอรี่ชนิดลิเทียมไอออนที่สามารถชาร์จไฟได้เร็วกว่าแบตเตอรี่ชนิดลิเทียมไอออนทั่วไปๆ 30 ถึง 120 เท่า
นักวิทยาศาสตร์ประจำสถาบันดังกล่าวนำวัสดุแคโทด และลิเทียมแมงกานีสออกไซด์ จุ่มลงไปในสารละลายที่มีแร่แกรไฟต์ผสมอยู่ภายใต้สภาพอับอากาศ ทำให้แร่แกรไฟต์เปลี่ยนสภาพกลายเป็นเส้นใยที่มีคุณสมบัตินำไปฟ้า ก่อให้เกิดปฏิกิริยาไฟฟ้าที่ขั้วแอโนด (ขั้วลบ) ขั้วแคโทด (ขั้วบวก) รอบสารละลายอิเล็กโทรไลต์ แรงดัน
|
ไฟฟ้าที่ได้ทำให้แบตเตอรี่สามารถชาร์จไฟได้เร็วขึ้น เนื่องจากประจุไฟฟ้ากระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ก็ยังเป็นอุปสรรค์สำคัญต่อการพัฒนาต่อยอดผลงานชิ้นนี้ จึงยังคงเป็นโจทย์ที่ท้าทายให้นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาแบตเตอรี่รุ่นดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ งานวิจัยชิ้นกล่าวตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติด้านเคมีของเยอรมนี (Angewandte Chemie International Edition)
|
เรื่องน่ารู้
เรื่องน่ารู้
----------------------------------------------------------
ห้องเปลื้องทุกข์เปลี่ยนของเสียเป็นกระแสไฟฟ้าและปุ๋ย
|
นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนานหยาง (NTU) ประเทศสิงคโปร์ ได้คิดค้นระบบห้องน้ำที่เปลี่ยนของเสียจากการโจมตีของข้าศึก (Nature Calls!) และการเด็ดดอกไม้ให้เป็นกระแสไฟฟ้าและปุ๋ย นอกจากนี้ ระบบดังกล่าวยังช่วยลดการใช้น้ำในการชำระสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับระบบห้องน้ำที่ใช้อยู่ในปัจจุบันในประเทศสิงคโปร์
ระบบดังกล่าวมีชื่อว่า โน มิกซ์ แวคคิวอัม ทอยเล็ท (No-Mix Vacuum Toilet) มีโถสุขภัณฑ์สำหรับแยกของเสียจากการปัสสาวะและอุจจาระ ใช้เทคโนโลยีการดูดแบบสุญญากาศ เช่นเดียวกับระบบที่ใช้ในห้องน้ำบนเครื่องบิน ทั้งนี้ การชำระของเสียจากการการเด็ดดอกไม้จะใช้น้ำเพียง 0.2 ลิตร ในขณะที่การชำระของเสียจากการโจมตีของข้าศึกจะใช้น้ำเพียง 1 ลิตรเท่านั้น ส่วนห้องน้ำทั่วๆ ไปในปัจจุบันใช้น้ำในการชำระของเสียสูงถึง 4 ถึง 6 ลิตร ทั้งนี้ หากติดตั้งระบบดังกล่าวตามห้องน้ำสาธารณะกว่า 100 ระบบ ก็จะช่วยประหยัดน้ำประมาณ 160,000 ลิตรในหนึ่งปี ซึ่งเป็นปริมาณน้ำที่เพียงพอสำหรับเติมสระขนาดเล็กที่มีความกว้าง 10 × 8 เมตร ลึก 2 เมตร
ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนานหยางกำลังดำเนินการทดสอบด้วยการติดตั้งโถสุขภัณฑ์ต้นแบบในห้องน้ำภายในมหาวิทยาลัยจำนวน 2 ห้อง และถ้าหากทุกอย่างเป็นไปได้สวย ประชาชนทั่วโลกอาจจะได้เห็นหรือแม้กระทั่งได้นั่งเปลื้องทุกข์บนโถสุขภัณฑ์ดังกล่าวในอีก 3 ปีข้างหน้า
รศ. หวัง จิงหยวน ผู้นำในการวิจัย กล่าวว่า เป้าหมายสูงสุดไม่ใช่แค่การประหยัดน้ำด้วยระบบห้องน้ำระบบใหม่เท่านั้น แต่เป็นการช่วยฟื้นฟูทรัพยากรแบบครบวงจร เพื่อที่จะนำพาประเทศไปยังเป้าหมายการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากมีแหล่งคัดแยกของเสียและกำจัดของเสียมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการฟื้นฟูทรัพยากร เนื่องจากการบำบัดของเสียรวมทำให้สิ้นเปลืองพลังงานและสิ้นเปลืองเงิน แต่นวัตกรรมระบบห้องน้ำระบบใหม่ ที่ได้รับเงินสนับสนุนงานวิจัยจำนวน 10 ล้านดอลลาร์จากโครงการวิจัยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ของมูลนิธิวิจัยแห่งชาติสิงคโปร์ อาจเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจบ้านจัดสรร โรงแรม รีสอร์ท และชุมชนที่ไม่มีระบบน้ำเสีย
ทั้งนี้ โน มิกซ์ แวคคิวอัม ทอยเล็ท จะแยกของเสียจากการเด็ดดอกไม้ไปยังสถานที่คัดแยกเพื่อแยกส่วนประกอบที่ใช้สำหรับทำปุ๋ย เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ขณะเดียวกัน ของเสียจากการโจมตีของข้าศึกก็จะถูกส่งไปยังไบโอรีแอคเตอร์ (Bioreactor) เพื่อย่อยสลายของเสียเหล่านั้น ก่อนที่จะแยกก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซที่ไม่มีกลิ่นและสามารถใช้แทนก๊าซธรรมชาติในการหุงต้ม นอกจากนี้ ยังสามารถเปลี่ยนก๊าซมีเทนเป็นกระแสไฟฟ้าด้วยการใช้อุปกรณ์ที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าโดยอาศัยปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมี (Fuel cell)
อนึ่ง น้ำที่ใช้แล้ว (Grey water) ทั้งจากการซักผ้า อาบน้ำ และล้างจาน สามารถปล่อยไปยังระบบน้ำเสียโดยไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการบำบัดที่ยุ่งยาก ขณะที่ขยะจำพวกเศษอาหารสามารถนำไปย่อยสลายด้วยไบโอรีแอคเตอร์ หรือนำไปเปลี่ยนสภาพก่อนนำไปผสมเป็นปุ๋ย ซึ่งช่วยฟื้นฟูทรัพยากรได้เป็นอย่างดี
|
----------------------------------------------------------
White Goat เปลี่ยนกระดาษ A4 ให้เป็นกระดาษชำระ
บริษัท Oriental Co., Ltd. เปิดตัวเครื่อง White Goat เครื่องแปรสภาพกระดาษ A4 ให้เป็นกระดาษชำระ โดยทำแค่เอากระดาษ A4 สอดเข้าไปในช่องรับกระดาษของเครื่องแล้วกระดาษนี้จะแปรสภาพเป็นกระดาษชำระภายในเวลาไม่นาน
จากการรายงานของ DigInfo สื่อในประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า เครื่องนี้สามารถแปรสภาพกระดาษ A4 จำนวน 40 แผ่นให้เป็นกระดาษชำระ 1 ม้วนภายในเวลา 30 นาที ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าเครื่องนี้จะช่วยลดปริมาณการตัดต้นไม้ได้ราว 60 ต้นต่อปี
เครื่องนี้มีมูลค่า 1 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3 ล้านบาท มีกำหนดการณ์จะวางจำหน่ายภายในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ แต่ในทางตรงกันข้าม จากการรายงานของเว็บไซต์ Dvice.com ที่ระบุว่า เครื่องนี้ทำให้ผู้ใช้ไม่คุ้มค่า เนื่องจากราคาเฉลี่ยของกระดาษชำระที่วางจำหน่ายทั่วโลกอยู่ที่ 60 เซนต์ หรือราว 18 บาท เท่านั้น แต่ราคาของเครื่องนี้เทียบเท่ากับราคากระดาษชำระ 2 แสนม้วน ทำให้เราต้องจับตาดูว่าเครื่องนี้จะมียอดขายสูงหรือไม่ แต่ก็ถือเป็นอุปกรณ์ที่น่าจะถูกใจคนที่รักสิ่งแวดล้อมเป็นจำนวนมากเช่นกัน
|
วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ภูมิปัญญาไทย
ภูมิปัญญาไทย
เก็บผักผลไม้ให้สดโดยไม่ง้อไฟฟ้า
|
เป็นที่ทราบกันดีว่าตู้เย็นตามบ้านทั่วไปช่วยรักษาอาหารให้สดใหม่ไม่เน่าเสียง่าย แต่อาจเป็นเรื่องยากสำหรับผู้อาศัยอยู่กลางทะเลทรายที่จะเก็บรักษาอาหารไว้ให้นานที่สุด เนื่องจากพวกเขายังไม่มีไฟฟ้าใช้ ทั้งนี้ มูฮัมหมัด บาห์ แอบบา ครูชาวไนจีเรียที่เติบโตมาในครอบครัวช่างปั้น ตระหนักถึงปัญหานี้ดี จึงได้คิดค้นวิธียึดอายุความสดของผักผลไม้อย่างง่ายด้วยการเก็บรักษาไว้ในเครื่องปั้นดินเผา โดยผลงานดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า เซียร์ (Zeer) วัสดุที่ใช้ทำประกอบด้วยกระถางดินเผาที่ไม่เจาะรู มีขนาดต่างกัน ขอบหนา 2 ถึง 3 นิ้ว จำนวน 2 ใบ ทรายบริสุทธิ์ 1 ถุง กระสอบป่านสำหรับคลุม วิธีทำก็ไม่ยากเลย เพียงแค่เททรายลงในกระถางใบใหญ่ให้หนาประมาณ 1 นิ้ว วางกระถางใบเล็กลงบนทรายที่เกลี่ยจนได้ระดับแล้ว จัดกระถางใบเล็กที่ซ้อนอยู่ตรงกลางให้ขอบกระถางอยู่ในแนวเดียวกันกับขอบกระถางใบใหญ่ จากนั้นเททรายในช่องว่างระหว่างกระถางทั้ง 2 ใบ เว้นระยะจากขอบประมาณ 1 นิ้ว นำน้ำมารดทรายให้เปียกชุ่ม และนำผักและผลไม้มาใส่ในกระถางที่วางซ้อน คลุมด้วยกระสอบป่านที่ชุ่มน้ำ เพียงแค่นี้ก็สามารถเก็บอาหารสดได้นานขึ้น 3 ถึง 4 สัปดาห์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าสักวัตต์ ซึ่งหากไม่มีการเก็บรักษาผักและผลไม้สดอย่างถูกวิธี จะสามารถเก็บรักษาไว้รับประทานได้เพียง 1 ถึง 2 วันเท่านั้น แต่ทั้งนี้ ควรหมั่นเทน้ำเพื่อให้ทรายชุ่มอยู่ตลอดเวลา อาจจะเทครั้งเดียวหรือสองครั้งต่อวันก็ได้
ซึ่งในเมืองไทยเราสามารถทำได้เพราะอุปกรณ์หาได้ง่ายมีมากในบ้านเรา ซึ่งภูมิปัญญานี้บ้านเราก็มีมานาน
ตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุึษ จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับคนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้
|
วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำหรับยูพีเอส
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำหรับยูพีเอส
เครื่องกำเนิดไฟฟ้า มีไว้สำหรับจ่ายพลังงานให้กับระบบไฟฟ้าให้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา ซึ่งในการเปิดหรือปิดเครื่องกำเนิดไฟฟ้านั้น จะต้องระวังไม่ให้เกิดแรงดันทรานเซียนท์ และในภาวะปกติแรงดันไฟฟ้าควรมีความเที่ยงตรง +- 2%
การติดตั้งใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
การที่เราต้องการใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองอัตโนมัติ ก็เพื่อที่จะให้ระบบไฟฟ้ายังคงใช้งานได้อยู่ตลอดเวลา แม้แต่ในกรณีที่แหล่งกำเนิดไฟฟ้าตามปกติหยุดชะงักการจ่ายไฟไปนานๆ และเป็นการลดต้นทุนในการที่จะจัดซื้อแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ๆ หรือมีจำนวนมากๆ ซึ่งจะทำให้มีปัญหาไปถึงห้องเก็บแบตเตอรี่ขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากด้วย
การพิจารณาหาขนาดของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองอัตโนมัตินั้นจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบต่างๆให้ครบถ้วน เช่น ความสูญเสียทางกำลังไฟฟ้าของเครื่องยูพีเอส กำลังไฟฟ้าที่ใช้ในการอัดให้ไฟแบตเตอรี่ และความต้านทานต่อฮาร์มอนิกย้อนกลับจากเครื่องยูพีเอสอีกด้วย
ตามปกติแล้ว เครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะจ่ายพลังงานออกมาได้ เป็นเวลานานที่จะจัดหาเชื้อเพลิงมาได้ แต่ระบบไฟฟ้าที่จะติดตั้งเครื่องกเนิดไฟฟ้าได้นั้น จะต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์โยกย้ายโหลดให้ต่อเข้ากับไฟฉุกเฉินได้ อุปกรณ์นี้เรียกว่า " สวิตช์ย้ายโหลดอัตโนมัติ " ( ATS - Automatic transfer switch ) หรืออาจจะเป็น " สวิตช์ย้ายโหลดด้วยมือ " ( MTS - Manual transfer twitch ) ก็ได้
ขั้นตอนที่มีการย้ายโหลดดังกล่าว จะมีช่วงที่การจ่ายพลังงานไฟฟ้าหยุดชะงัก หรือมีการที่ไฟฟ้าขาดตอนไปบ้าง ( ประมาณ 5 วินาทีถึง 5 นาที ขึ้นอยู่กับค่าที่ตั้งไว้ ) ซึ่ง พอจะแยกความสำคัญของโหลดที่ใช้งานได้เป็น 3 ประเภท คือ
1. โหลดปกติ ( Normal load ) โหลดชนิดนี้ เป็นโหลดที่ยินยอมให้มีการหยุดชะงักการจ่ายไฟฟ้าได้นานๆเช่น แสงสว่าง ปรับอากาศ
2. โหลดวิกฤต ( Critical load ) โหลดชนิดนี้เป็นโหลดที่ไม่ยินยอมให้มีการหยุดชะงักการจ่ายไฟฟ้านานเกินครึ่งไซเกิล ( 10 มิลลิวินาที ) เช่น คอมพิวเตอร์ , การสื่อสาร ดังนั้น ดหลดชนิดนี้จึงต้องจ่ายผ่านยูพีเอส และมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจ่ายเข้ายูพีเอสอีกขั้นหนึ่ง
3. โหลดจำเป็น ( Essential load ) โหลดชนิดนี้เป็นโหลดเพื่อความปลอดภัยที่ยินยอมให้มีการหยุดชะงักการจ่ายไฟฟ้าได้ แต่ต้องไม่นานเกิน 30 วินาที เช่น โคมไฟฉุกเฉิน ระบบความเย็นพิเศษ ระบบป้องกันเพลิง ระบบรักษาความปลอดภัย
การเลือกขนาดเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
การเลือกขนาดของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองมาใช้งาน จะต้องพิจารณาถึงหลักการในการเลือกและวิธีการคำนวณขนาดของเครื่องที่เหมาะสม จึงจะเกิดประโยชน์ และเกิดความมั่นคงต่อระบบไฟฟ้าได้มากที่สุด
การกำหนดขนาดของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า จะต้องพิจารณาภาวะที่โหลดเริ่มเปิดใช้งาน และโหลดพิเศษซึ่งต้องเพิ่มขนาดพิกัดขึ้นอีก เพื่อให้เกิดความปลอดภัย คือ
- เครื่องยูพีเอส
- เครื่องแปลงความถี่ไฟฟ้า
- เครื่องประจุไฟฟ้าแบตเตอรี่ ( ชาร์จเจอร์ )
- เตรื่องมือแพทย์
ขั้นตอนเตรียมการ เพื่อคำนวณขนาดเครื่องกำเนิดไฟฟ้า มีดังนี้
- เตรียมรายละเอียดของโหลด ( Load schedule )
- พิจารณาแยกโหลด ที่ต้องการใช้ตลอดเวลา
- พิจารณาเรียกโหลด ที่จำเป็นหรือความปลอดภัย
- พิจารณาแยกโหลด ที่ไม่จำเป็นต้องใช้
ทั้งนี้ วิธีการคำนวณโหลดเป็นวัตต์รวมอย่างง่าย ๆ นั้นถ้าหากไม่ทราบข้อมูล จะสามารถทำได้ดังนี้
1. โหลดแสงสว่าง
คำนวณวัตต์รวม จากวัตต์ของหลอดไฟและบัลลาส หากเป็นหลอดไฟ High intensity discharge ให้คิดวัตต์ 75% ของหลอด
2. โหลดมอเตอร์
คำนวณวัตต์รวม จากวัตต์ของมอเตอร์ หากมีแรงม้า ให้คิดเป็นวัตต์จาก
กิโลวัตต์ เท่ากับ แรงม้าที่เนมเพลท x 0.746
ประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ให้ถือว่า - 1 แรงม้า มีประสิทธิภาพประมาณ 70 %
- 10 แรงม้า มีประสิทธิภาพประมาณ 85 %
- 100 แรงม้า มีประสิทธิภาพประมาณ 90 %
3. โหลดเครื่องแปลงความถี่
หากเป็นเครื่องแปลงความถี่ที่เป็นโรตารี่ซึ่งมีการขับเคลื่อน ( หมุน ) ให้คำนวณกิโลวัตต์ได้ และแรงม้าให้คิดเป็นวัตต์จาก
กิโลวัตต์ เท่ากับ แรงม้าชุดขับด้านออก x 0.746
ประสิทธิภาพ
ประสิทธิภาพถือว่า มีค่าประมาณ 90 %
ในการคำนวณเครื่องแปลงความถี่เป็นโรตารี่ ควรมีการเผื่อไว้เป็นประมาณ 2 เท่า หากเครื่องแปลงความถี่เป็นสแตติก ควรมีการเผื่อไว้ประมาณ 1.4 เท่า
4. โหลดเครื่องยูพีเอสสแตติก
คำนวณหาวัตต์รวม ในภาวะอัดไฟแบตเตอรี่
กิโลวัตต์ เท่ากับ กิโลวัตต์ด้านออก + กิโลวัตต์ในการอัดไฟแบตเตอรี่
ประสิทธิภาพยูพีเอส
โดยปกติถือว่า ประสิทธิภาพยูพีเอสมีค่าประมาณ 85 % และการอัดไฟของแบตเตอรี่มีค่าประมาณ 20 % ของพิกัด
ในการคำนวณ ควรเผื่อไว้ประมาณ 1.4 เท่า
หลักการทั่วไปในการเลือกเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
การพิจารณา ในการเลือกเครื่องกำเนิดไฟฟ้า มีสามประการ คือ
1. พิจารณาที่จะยินยอมให้มีโหลดเป็นอุปกรณ์ที่เป็นโซลิดสเตต เช่น ไทริสเตอร์ มีค่าไม่เกิน 70 % ของโหลดทั้งหมด ส่วนโหลดที่เหลืออีก 30% ให้ถือว่าเป็นโหลดอุปกรณ์ทั่วไป ทั้งนี้เพื่อมิให้เกิดความผิดเพี้ยนของรูปเคลื่อนไฟฟ้า ( Waveform distortion ) มากเกินไปนั่นเอง
2. หากโหลดเป็นเครื่องยูพีเอส ชนิด 6 พัลล์ ควรจะมีการเผื่อขนาดกำลังไฟฟ้าด้านเข้า ให้เพิ่มขึ้นจากกำลังไฟฟ้าด้านเข้าปกติอีก 100%
3. หากโหลดเป็นเครื่องยูพีเอส ชนิด 12 พัลส์ ควรจะมีการเผื่อขนาดกำลังไฟฟ้าด้านเข้า ให้เพิ่มขึ้นจากกำลังไฟฟ้าด้านเข้าปกติอีก 50%
การคำนวณขนาดของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
โดยปกติ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทั่วไป จะรับโหลดโซลิดสเตต เช่น ไทริสเตอร์ ได้ประมาณ 55% ของพิกัดโหลดตามปกติเท่านั้น แต่ก็มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าบางชนิดที่ออกแบบให้รับโห
ถึง 75% ทีเดียว อย่างไรก็ตามหากเราไม่แน่ใจในเรื่องของชนิดของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เราจะหาได้มา เราก็ควรจะถือไว้ก่อนว่า เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่จะได้นั้น รับโหลดโซลิดสเตตได้เพียง 50-60 % ของพิกัดโหลดตามปกติ มาใช้ในการคำนวณเลือกขนาดของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
ตัวอย่าง : การคำนวณเลือกขนาดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองอัโนมัติ
โจทย์ : ต้องการให้จ่ายโหลดที่เครื่องยูพีเอส 70 % ของโหลดรวม 1000 เควีเอ และถือว่าระบบมีตัว
ประกอบกำลัง ( Power factor ) 0.8
การคำนวณ
โหลดรวม = KVA x pf
= 1000 x 0.8
= 800 กิโลวัตต์
โหลดยูพีเอสด้านออก 70% = 800 x 0.7
= 560 กิโลวัตต์
โดยปกติถือว่า ประสิทธิภาพของยูพีเอสทั้งชุด ประมาณ 85%
ดังนั้น โหลดยูพีเอสด้านเข้า = 560
เครื่องกำเนิดไฟฟ้า มีไว้สำหรับจ่ายพลังงานให้กับระบบไฟฟ้าให้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา ซึ่งในการเปิดหรือปิดเครื่องกำเนิดไฟฟ้านั้น จะต้องระวังไม่ให้เกิดแรงดันทรานเซียนท์ และในภาวะปกติแรงดันไฟฟ้าควรมีความเที่ยงตรง +- 2%
การติดตั้งใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
การที่เราต้องการใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองอัตโนมัติ ก็เพื่อที่จะให้ระบบไฟฟ้ายังคงใช้งานได้อยู่ตลอดเวลา แม้แต่ในกรณีที่แหล่งกำเนิดไฟฟ้าตามปกติหยุดชะงักการจ่ายไฟไปนานๆ และเป็นการลดต้นทุนในการที่จะจัดซื้อแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ๆ หรือมีจำนวนมากๆ ซึ่งจะทำให้มีปัญหาไปถึงห้องเก็บแบตเตอรี่ขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากด้วย
การพิจารณาหาขนาดของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองอัตโนมัตินั้นจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบต่างๆให้ครบถ้วน เช่น ความสูญเสียทางกำลังไฟฟ้าของเครื่องยูพีเอส กำลังไฟฟ้าที่ใช้ในการอัดให้ไฟแบตเตอรี่ และความต้านทานต่อฮาร์มอนิกย้อนกลับจากเครื่องยูพีเอสอีกด้วย
ตามปกติแล้ว เครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะจ่ายพลังงานออกมาได้ เป็นเวลานานที่จะจัดหาเชื้อเพลิงมาได้ แต่ระบบไฟฟ้าที่จะติดตั้งเครื่องกเนิดไฟฟ้าได้นั้น จะต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์โยกย้ายโหลดให้ต่อเข้ากับไฟฉุกเฉินได้ อุปกรณ์นี้เรียกว่า " สวิตช์ย้ายโหลดอัตโนมัติ " ( ATS - Automatic transfer switch ) หรืออาจจะเป็น " สวิตช์ย้ายโหลดด้วยมือ " ( MTS - Manual transfer twitch ) ก็ได้
ขั้นตอนที่มีการย้ายโหลดดังกล่าว จะมีช่วงที่การจ่ายพลังงานไฟฟ้าหยุดชะงัก หรือมีการที่ไฟฟ้าขาดตอนไปบ้าง ( ประมาณ 5 วินาทีถึง 5 นาที ขึ้นอยู่กับค่าที่ตั้งไว้ ) ซึ่ง พอจะแยกความสำคัญของโหลดที่ใช้งานได้เป็น 3 ประเภท คือ
1. โหลดปกติ ( Normal load ) โหลดชนิดนี้ เป็นโหลดที่ยินยอมให้มีการหยุดชะงักการจ่ายไฟฟ้าได้นานๆเช่น แสงสว่าง ปรับอากาศ
2. โหลดวิกฤต ( Critical load ) โหลดชนิดนี้เป็นโหลดที่ไม่ยินยอมให้มีการหยุดชะงักการจ่ายไฟฟ้านานเกินครึ่งไซเกิล ( 10 มิลลิวินาที ) เช่น คอมพิวเตอร์ , การสื่อสาร ดังนั้น ดหลดชนิดนี้จึงต้องจ่ายผ่านยูพีเอส และมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจ่ายเข้ายูพีเอสอีกขั้นหนึ่ง
3. โหลดจำเป็น ( Essential load ) โหลดชนิดนี้เป็นโหลดเพื่อความปลอดภัยที่ยินยอมให้มีการหยุดชะงักการจ่ายไฟฟ้าได้ แต่ต้องไม่นานเกิน 30 วินาที เช่น โคมไฟฉุกเฉิน ระบบความเย็นพิเศษ ระบบป้องกันเพลิง ระบบรักษาความปลอดภัย
การเลือกขนาดเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
การเลือกขนาดของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองมาใช้งาน จะต้องพิจารณาถึงหลักการในการเลือกและวิธีการคำนวณขนาดของเครื่องที่เหมาะสม จึงจะเกิดประโยชน์ และเกิดความมั่นคงต่อระบบไฟฟ้าได้มากที่สุด
การกำหนดขนาดของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า จะต้องพิจารณาภาวะที่โหลดเริ่มเปิดใช้งาน และโหลดพิเศษซึ่งต้องเพิ่มขนาดพิกัดขึ้นอีก เพื่อให้เกิดความปลอดภัย คือ
- เครื่องยูพีเอส
- เครื่องแปลงความถี่ไฟฟ้า
- เครื่องประจุไฟฟ้าแบตเตอรี่ ( ชาร์จเจอร์ )
- เตรื่องมือแพทย์
ขั้นตอนเตรียมการ เพื่อคำนวณขนาดเครื่องกำเนิดไฟฟ้า มีดังนี้
- เตรียมรายละเอียดของโหลด ( Load schedule )
- พิจารณาแยกโหลด ที่ต้องการใช้ตลอดเวลา
- พิจารณาเรียกโหลด ที่จำเป็นหรือความปลอดภัย
- พิจารณาแยกโหลด ที่ไม่จำเป็นต้องใช้
ทั้งนี้ วิธีการคำนวณโหลดเป็นวัตต์รวมอย่างง่าย ๆ นั้นถ้าหากไม่ทราบข้อมูล จะสามารถทำได้ดังนี้
1. โหลดแสงสว่าง
คำนวณวัตต์รวม จากวัตต์ของหลอดไฟและบัลลาส หากเป็นหลอดไฟ High intensity discharge ให้คิดวัตต์ 75% ของหลอด
2. โหลดมอเตอร์
คำนวณวัตต์รวม จากวัตต์ของมอเตอร์ หากมีแรงม้า ให้คิดเป็นวัตต์จาก
กิโลวัตต์ เท่ากับ แรงม้าที่เนมเพลท x 0.746
ประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ให้ถือว่า - 1 แรงม้า มีประสิทธิภาพประมาณ 70 %
- 10 แรงม้า มีประสิทธิภาพประมาณ 85 %
- 100 แรงม้า มีประสิทธิภาพประมาณ 90 %
3. โหลดเครื่องแปลงความถี่
หากเป็นเครื่องแปลงความถี่ที่เป็นโรตารี่ซึ่งมีการขับเคลื่อน ( หมุน ) ให้คำนวณกิโลวัตต์ได้ และแรงม้าให้คิดเป็นวัตต์จาก
กิโลวัตต์ เท่ากับ แรงม้าชุดขับด้านออก x 0.746
ประสิทธิภาพ
ประสิทธิภาพถือว่า มีค่าประมาณ 90 %
ในการคำนวณเครื่องแปลงความถี่เป็นโรตารี่ ควรมีการเผื่อไว้เป็นประมาณ 2 เท่า หากเครื่องแปลงความถี่เป็นสแตติก ควรมีการเผื่อไว้ประมาณ 1.4 เท่า
4. โหลดเครื่องยูพีเอสสแตติก
คำนวณหาวัตต์รวม ในภาวะอัดไฟแบตเตอรี่
กิโลวัตต์ เท่ากับ กิโลวัตต์ด้านออก + กิโลวัตต์ในการอัดไฟแบตเตอรี่
ประสิทธิภาพยูพีเอส
โดยปกติถือว่า ประสิทธิภาพยูพีเอสมีค่าประมาณ 85 % และการอัดไฟของแบตเตอรี่มีค่าประมาณ 20 % ของพิกัด
ในการคำนวณ ควรเผื่อไว้ประมาณ 1.4 เท่า
หลักการทั่วไปในการเลือกเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
การพิจารณา ในการเลือกเครื่องกำเนิดไฟฟ้า มีสามประการ คือ
1. พิจารณาที่จะยินยอมให้มีโหลดเป็นอุปกรณ์ที่เป็นโซลิดสเตต เช่น ไทริสเตอร์ มีค่าไม่เกิน 70 % ของโหลดทั้งหมด ส่วนโหลดที่เหลืออีก 30% ให้ถือว่าเป็นโหลดอุปกรณ์ทั่วไป ทั้งนี้เพื่อมิให้เกิดความผิดเพี้ยนของรูปเคลื่อนไฟฟ้า ( Waveform distortion ) มากเกินไปนั่นเอง
2. หากโหลดเป็นเครื่องยูพีเอส ชนิด 6 พัลล์ ควรจะมีการเผื่อขนาดกำลังไฟฟ้าด้านเข้า ให้เพิ่มขึ้นจากกำลังไฟฟ้าด้านเข้าปกติอีก 100%
3. หากโหลดเป็นเครื่องยูพีเอส ชนิด 12 พัลส์ ควรจะมีการเผื่อขนาดกำลังไฟฟ้าด้านเข้า ให้เพิ่มขึ้นจากกำลังไฟฟ้าด้านเข้าปกติอีก 50%
การคำนวณขนาดของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
โดยปกติ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทั่วไป จะรับโหลดโซลิดสเตต เช่น ไทริสเตอร์ ได้ประมาณ 55% ของพิกัดโหลดตามปกติเท่านั้น แต่ก็มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าบางชนิดที่ออกแบบให้รับโห
ถึง 75% ทีเดียว อย่างไรก็ตามหากเราไม่แน่ใจในเรื่องของชนิดของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เราจะหาได้มา เราก็ควรจะถือไว้ก่อนว่า เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่จะได้นั้น รับโหลดโซลิดสเตตได้เพียง 50-60 % ของพิกัดโหลดตามปกติ มาใช้ในการคำนวณเลือกขนาดของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
ตัวอย่าง : การคำนวณเลือกขนาดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองอัโนมัติ
โจทย์ : ต้องการให้จ่ายโหลดที่เครื่องยูพีเอส 70 % ของโหลดรวม 1000 เควีเอ และถือว่าระบบมีตัว
ประกอบกำลัง ( Power factor ) 0.8
การคำนวณ
โหลดรวม = KVA x pf
= 1000 x 0.8
= 800 กิโลวัตต์
โหลดยูพีเอสด้านออก 70% = 800 x 0.7
= 560 กิโลวัตต์
โดยปกติถือว่า ประสิทธิภาพของยูพีเอสทั้งชุด ประมาณ 85%
ดังนั้น โหลดยูพีเอสด้านเข้า = 560
วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
ยูพีเอสคืออะไร
การเปรียบเทียบยูพีเอสชนิดต่างๆ
ระบบยูพีเอสที่ใช้เทคนิคของทรานซิสเตอร์ จะมีประสิทธิภาพรวมของยูพีเอสทั้งระบบสูงกว่ายูพีเอสที่ใช้ไทริสเตอร์ และสูงกว่ายูพีเอสโรตารี่ กล่าวคือ ยูพีเอสที่ใช้ไทริสเตอร์จะมีประสิทธิภาพรวมสูงกว่ายูพีเอสโรตารี่ประมาณ 7% ส่วนยูพีเอสที่ใช้ทรานซิสเตอร์จะมีประสิทธิภาพรวมสูงกว่ายูพีเอสโรตารี่ประมาณ 10% นั่นคือยูพีเอสที่ใช้ทรานซิสเตอร์จะมีประสิทธิภาพรวมสูงกว่ายูพีเอสที่ใช้ไทริสเตอร์ประมาณ 3 %
แต่อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาถึงความทนทานแล้ว ยูพีเอสโรตารี่จะมีความทนทานสูงสุด ส่วนยูพีเอสที่ใช้ไทริสเตอร์จะมีความทนทานรองลงมา และยูพีเอสทรานซิสเตอร์จะมีความทนทานต่ำสุด ดังนั้นในการเลือกชนิดและประเภทของยูพีเอสมาใช้งาน ต้องพิจารณาองค์ประกอบด้านราคา ความทนทาน ประสิทธิภาพ สถานที่จัดเก็บ และสภาพแวดล้อม ซึ่งเปรียบเทียบระหว่างระบบยูพีเอสโรตารี่กับระบบยูพีเอสสแตติกจะแยกได้ดังนี้
การเปรียบเทียบระบบยูพีเอสโรตารี่ กับระบบยูพีเอสสแตติก
รายละเอียด ยูพีเอสโรตารี่ ยูพีเอสสแตติก
ประสิทธิภาพรวม ประมาณ 87% ประมาณ 89%
ขนาดของเครื่อง ใหญ่กว่าสแตติก 20% เล็กกว่า
ระดับเสียง ประมาณ 94db ประมาณ 72db
ระบบปรับอากาศ ไม่จำเป็นนัก จำเป็นต้องใช้
ส่วนการเปรียบเทียบคุณสมบัติไฟฟ้าด้านเข้าของระบบยูพีเอสชนิดต่างๆด้านฮาร์มอนิกรวมและด้านตัวประกอบกำลังนั้น พอสรุปได้ดังนี้
รายละเอียดระบบยูพีเอส THD P.F.
เรคติไฟเออร์แบบ 6 พัลส์ 28 % 0.84
เรคติไฟเออร์แบบ 12 พัลส์ 10 % 0.85
เรคติไฟเออร์แบบ 6 พัลส์ ที่มีอุปกรณ์ 9 % 0.90
กรองฮาร์มอนิกพิเศษ
ยูนิบล็อคคอนเวอร์เตอร์ 2 % 0.95
การเปรียบเทียบความทนทานต่อการใช้งานของระบบยูพีเอสชนิดต่างๆ ทางด้าน MTBF ( Mean Time between failure ) สามารถสรุปได้ดังนี้
รายละเอียดระบบยูพีเอส MTBF (ชั่วโมง )
On Line Static : Single Module 80,000 - 100,000
On Line Static : Parallel redundant Pair 350,000 - 400,000
Uniblock : Single Uniblock 150,000 - 170,000
Uniblock : Single Uniblock Internally Redundant 610,000 - 670,000
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)